การตรวจสอบเครื่องหมายการค้าก่อนนำเข้า-ส่งออก

บางท่านอาจยังไม่ทราบว่าจะตรวจสอบเครื่องหมายการค้าได้จากแหล่งข้อมูลใดเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดลิขสิทธ์ หากเป็นการนำเข้ามาในไทยแล้วติดเรื่องลิขสิทธิ์ ผู้นำเข้าจะเสียหายหลายเรื่องเลยนะครับ เช่น เสียเงินค่าสินค้าไปแล้ว ของก็ไม่ได้เพราะละเมิดลิขสิทธิ์ต้องถูกยึด โดนปรับ และมีคดีความติดตัวด้วยนะครับ ดังนั้นเรามาตรวจสอบเบื้องต้นกันก่อนที่จะเกิดความเสียหายดีไหมครับขั้นตอนต่อไปนี้เป็นขั้นตอนเบื้องต้นที่เราสามารถตรวจสอบ เครื่องหมายการค้าครับ ทำตาม 5 ขั้นตอนนี้ได้เลยนะครับ เข้าเว็บไซต์กรมศุลกากร https://customs.go.th/ เลือกเรื่องหน้ารู้และกฏหมาย เลือกศูนย์ประสานงานทรัพย์สินทางปัญญา เลือกระบบฐานข้อมูลเครื่องหมายการค้า พิมพ์คำค้นหาเครื่องหมายการค้าได้เลยครับ เมื่อค้นหาพบข้อมูลแสดงว่า มีการจดลิขสิทธิ์ ไว้และจะพบว่า ใครเป็นผู้จดไว้ครับแต่ถ้าคนไม่พบก็ควรค้นหาด้วยคำที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นนะครับ ย้ำว่า วิธีการนี้เป็นวิธีเบื้องต้นในการตรวจสอบจากฐานข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้มีการจดทะเบียนไว้ครับหากต้องการความชัวร์ 100% ให้ติดต่อตรวจสอบกับกรมทรัพท์สินทางปัญญาครับ ถ้าต้องการปรึกษาปัญหาเรื่องนำเข้าหรือส่งออก สามารถปรึกษาเราได้โดยตรงเลยครับติดขัดปัญหาสามารถติดต่อเราได้ทันทีจันทร์-ศุกร์ 08.30-17.00 Tel: 02 712 1775

นำเข้าส่งออกติดเรื่องใบอนุญาต ต้องติดต่อหน่วยงานใด ?

เนื่องจากสินค้าบางประเภทเป็นสินค้าควบคุม ดังนั้นการนำเข้า/ส่งออก จึงต้องได้รับอนุญาตก่อนนำเข้าหรือส่งออก มีหน่วยงานอะไรบ้างที่รับผิดชอบออกใบอนุญาตสำหรับการนำเข้า/ส่งออก และแต่ละหน่วยงานควบคุมสินค้าอะไรบ้าง   1. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กลุ่มสินค้าที่ควบคุม : ผลิตภัณฑ์ยา, เครื่องมือแพทย์, เครื่องสำอาง, วัตถุออกฤทธิ์, วัตถุอันตราย, ยาเสพติดให้โทษ, สารระเหย เบอร์ติดต่อ : 02-590-7000, สายด่วน 1556 ลิงค์หน่วยงาน : คลิก 2. กรมโรงงานอุตสหกรรม กลุ่มสินค้าที่ควบคุม : วัตถุระเบิดได้, วัตถุไวไฟ, วัตถุมีพิษ วัตถุออกซิไดซ์และวัตถุเปอร์ออกไซด์, วัตถุทำให้เกิดโรค, วัตถุกัดกร่อน, วัตถุตาม พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ของกรมควบคุม (เฉพาะที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม) ดังนี้ วัตถุอันตรายชนิดที่ 1 ได้แก่ วัตถุอันตรายที่การผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือมีไว้ในครอบรองต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด วัตถุอันตรายชนิดที่ Read more…

ค่าเงินบาทอ่อนค่าแข็งค่า ส่งผลกระทบต่อผู้นำเข้าส่งออกอย่างไร

เรื่องค่าเงินนั้น คงเคยคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในช่วงข่าวเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ค่าเงินบาทอ่อนค่า หรือวันนี้ค่าเงิน บาทแข็งค่า เมื่อเราเข้าธนาคารที่มีหน้าจอแสดงค่าเงินให้เราเห็นว่าวันนี้ เวลานี้ค่าเงินบาทของเราเมื่อเทียบกับค่าเงินอื่นๆ อยู่ที่เท่าไหร่ หรือแม้แต่เว็บไซต์ หลายๆเว็บก็ มีพื้นที่ส่วนแสดงราคาน้ำมันและแสดงค่าเงินบาท  แต่เคยสงสัยไหมว่าค่าเงินบาทกับค่าเงินต่างประเทศทำไมไม่เท่ากัน  แล้วค่าเงินบาทที่อ่อนค่าหรือแข็งค่านี้ ส่งผลกระทบต่อผู้นำเข้าส่งออกอย่างไรบ้าง ค่าเงินบาท คืออะไร ? คือจำนวนเงินบาทเมื่อแลกกับการเงินต่างประเทศสกุลอื่นๆ เช่นเงินดอลล่าร์สหรัฐ เงินยูโร เงินเยนญี่ปุ่น  เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะเทียบกับเงินดอลล่าร์สหรัฐ  โดยวันและเวลานั้นๆ  เงินบาทของเราต้องใช้จำนวนเท่าไหร่ เพื่อแลกกับ เงิน 1 ดอลล่าร์สหรัฐ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าหรือแข็งค่านี้ ส่งผลกระทบต่อผู้นำเข้าส่งออกอย่างไรบ้าง ค่าเงินที่มีการปรับตัวอยุ่ตลอดเวลานั้นย่อมส่งผลด้านบวกและด้านลบ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า ฝ่ายไหนเสียประโยชน์ และฝ่ายไหนได้ประโยชน์ 1.ค่าเงินบาทแข็งค่า คือ ค่าเงินสกุลหนึ่งมีค่า มากขึ้น เมื่อเทียบกับค่าเงินอีกสกุลหนึ่ง เช่น เมื่อวาน      35 THB    =    1 USD Read more…